วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2556
วิชา
การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
EAED 2209 Child Care of Early Childhood with Special Need
เวลาเรียน 11.30-14.00 น.
ครั้งที่ 5
เนื้อหาการเรียน
พัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
พัฒนาการ
การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆ
สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
- มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน
-พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใดด้านหนึ่ง
หรือหลายด้าน
-พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าไปด้วย
ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการ
1. ปัจจัยด้านชีวภาพ
2. ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม
3. ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด
4. ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมหลังคลอด
สาเหตุที่ทําให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. โรคทางพันธุกรรม
2. โรคทางระบบประสาท
3. การติดเชื้อ
4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม
5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด
6. สารเคมี
ตะกั่ว
แอลกอฮอล์
นิโคติน
7. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม
แนวทางการวินิจฉัยเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. การซักประวัติ
- โรคประจําตัวต่างๆ
- การเจ็บป่วยในครอบครัว
- โรคทางพันธุกรรม
- ประวัติการฝากครรภ์
- ประวัติเกี่ยวกับการคลอด
- พัฒนาการที่ผ่านมา
- การเล่นตามวัยการช่วยเหลือตนเอง
- ปัญหาพฤติกรรม
- ประวัติอื่นๆ
สรุปเมื่อซักประวัติแล้วจะทําให้สามารถบอกได้ว่า..
1. ลักษณะพัฒนาการล่าช้าดังกล่าวเป็นแบบคงที่
(static) หรือถดถอย (progressive encephalopathy)
2. เด็กมีระดับพัฒนาการช้าจริงหรือไม่
อย่างไร อยู่ในระดับไหน
3. มีข้อบ่งชี้ว่าจะมีสาเหตุจากโรคทางพันธุกรรมหรือไม่
4. สาเหตุของความบกพร่องทางพัฒนาการนั้นเกิดจากอะไร
5. ขณะนี้เด็กได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างไร
2. การตรวจร่างกาย
2.1
ตรวจร่างกายทั่วๆไป
2.2
ภาวะตับม้ามโต
2.3
ผิวหนัง
2.4
ระบบประสาทต่างๆ
2.5
ดูลักษณะของเด็กที่ถูกทารุณกรรม (child abuse)
2.6
ระบบการมองเห็นและการได้ยิน
3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ
4.การประเมินพัฒนาการ
- การประเมินแบบไม่เป็นทางการ
การประเมินที่ใช้ในเวชปฏิบัติ
- แบบทดสอบ
Denver II , Gesell Drawing Test
- แบบประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุแรกเกิด
- 5 ปี สถาบันราชานุกูล สามารถใช้ในการคัดกรอง ประเมินพัฒนาการและส่งเสริมพัฒนาการ
แนวทางในการดูแลรักษา
1. หาสาเหตุทที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
2. การตรวจค้นหาความผิดปกติร่วม
3. การรักษาสาเหตุโดยตรง
4. การส่งเสริมพัฒนาการ
5. ให้คําปรึกษากับครอบครัว
สรุปขั้นตอนในการดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. การตรวจคัดกรองพัฒนากร
(Developmental screening)
2. การตรวจประเมินพัฒนาการ
(Developmental assessment)
3. การให้การวินิจฉัยและหาสาเหตุ
(Diagnosis)
4. การให้การรักษาและส่งเสริมพัฒนาการ
(Treatment and early Intervention)
5. การติดตามและประเมินผลการรักษาเป็นระยะ
(Follow up and evaluation)
สรุป
เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการจะมีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน
การ
สังเกตพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก
การประเมนิพัฒนาการเด็กเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในเด็กกลุ่ม
เสี่ยงตามสาเหตุที่ทําให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการจะช่วยให้ค้นหาเด็กเหล่านี้ได้เร็วขึ้น
สามารถให้การช่วยเหลือได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
เพื่อช่วยให้เด็กมีพัฒนาการดีขึ้นตามศักยภาพ